วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กระหล่ำปลีช่วยลดความอ้วนได้

ภาพประกอยไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

กระหล่ำปลีช่วยลดความอ้วนได้

มีประประโยชน์และสรรพคุณมากมาย
ในกระหล่ำปลีจะมีกรดทาร์ทาริกช่วยยับยั้งแป้งและน้ำตาลไปเป็นไขมัน มีวิตามินซีสูงช่วยทำให้หายจากไข้หวัดได้เร็วขึ้น ทำให้ฟันและเหงือกแข็งแรง ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ในกระหล่ำปลีมีแคลเซียมและฟอสฟอรัส เสริมสร้างกระดูกของเด็กและคนชรา ช่วยป้องกันมะเร็งช่องท้องได้ มีไยอาหารช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดโอกาสการเป็นมะเร็งลำไส้ในผู้ชาย ช่วยย่อยอาหารและล้างพิษ สารซัลเฟอร์ในกระหล่ำปลีช่วยระงับประสาทจึงทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้นอนหลับสบาย กระหล่ำปลีสร้างน้ำคัดหลั่งเคลือบผิวจึงป้องกันไม่ให้เกิดกรดในกระเพาะอาหาร ต้านทานการอักเสบในกระเพาะอาหาร ลอกใบกระหล่ำปลีออก นำมาประคบที่เต้านม ใช้ผ้าพันทิ้งไว้ 20 นาที บรรเทาอาการปวดตึงและคัดเต้านม

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

โรคไบโพล่าร์

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา



โรคอารมณ์แปรปรวน

           โรคไบโพลาร์ (Bipolar) เป็นโรคที่จัดอยู่ในกลุ่มโรคทางด้านเรื่องอารมณ์ กลุ่มเดียวกับโรค ซึมเศร้า โรคซึมเศร้านั้นคือ โรคอารมณ์ที่ชัดเจน ที่มีอารมณ์เบื่อเศร้า แต่โรคไบโพลาร์ จะมีลักษณะ ที่มีอารมณ์ช่วงหนึ่งจะมีลักษณะครื้นเครง รื่นเริง สนุกสนานสลับกับอารมณ์ซึมเศร้าอีกช่วงหนึ่ง 

           โรคนี้มีหลายชื่อ เช่น โรคอารมณ์แปรปรวน , manic-depressive disorder, bipolar affective disorder, bipolar disorder ในปัจจุบันชื่อเป็นทางการคือ โรคไบโพล่าร์ (bipolar disorder) ลักษณะสำคัญของโรคนี้คืออาการผิดปกติของอารมณ์ที่เกิดขึ้นนั้นอาจเป็นแบบซึมเศร้า (depression) หรือตรงข้ามกับซึมเศร้าคืออารมณ์ดีผิดปกติ (mania) ก็ได้ 

           โรคไบโพล่าร์นั้นมักเริ่มเป็นก่อนวัยกลางคน บางรายเริ่มเป็นตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 20 ปี แต่ก็มี บางรายที่มาเริ่มเป็นหลังอายุ 40 ปีได้ โรคไบโพล่าร์เป็นโรคที่มีปัจจัยทางพันธุกรรมมาเกี่ยวข้อง ค่อนข้างมากโดยพบว่าเมื่อลองถาม ประวัติให้ดีๆมักจะพบว่ามีคนอื่นบางคนในวงศ์ญาติป่วยเป็น โรคไบโพล่าร์และลูกหลานของผู้ที่ป่วยเป็นโรคไบโพล่าร์มีโอกาสที่จะป่วยเป็นโรคไบโพล่าร์ได้ มากกว่าคนทั่วไป 

อาการของโรค


        อารมณ์ดีในลักษณะที่ผิดปกติ เรียกว่า mania หมายถึงอารมณ์ดีมากเกินกว่าปกติที่ควรจะ เป็น และมักจะไม่มีเหตุผลหรือไม่สมเหตุสมผล อาจจะมีปัญหากระทบกระเทือนต่อหน้าที่การงาน อารมณ์ดีจนกระทั่งตัดสินใจในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ช่วงที่มีอารมณ์ดีจะช่างพูดช่างคุย คุยได้ไม่หยุด และ ไม่ชอบให้ใครมาขัดจะเกิดอารมณ์หงุดหงิด แล้วถึงขั้นใช้อารมณ์ก้าวร้าวได้  

        ผู้ป่วยบางคนกลางคืนไม่ยอมหลับ ไม่ยอมนอน อยากเที่ยวกลางคืน ใช้จ่ายเงินมาก มี อารมณ์ทางเพศมากขึ้น สำส่อนทางเพศ อารมณ์ดีที่มากเกินปกติและไม่สมเหตุสมผล ที่เป็นมากขึ้น ต่อเนื่องยาวกว่าหนึ่งอาทิตย์ แล้วก่อให้เกิดปัญหาคือ จุดที่ควรสงสัยว่าคนนั้นอาจเป็นโรคไบโพลาร์ ความหมายของไบโพลาร์ไม่จำเป็นต้องสลับกับช่วงซึมเศร้า บางคนเป็นโรคนี้ อยู่ช่วงหนึ่งอาจจะ ประมาณ 4-6 เดือนอาจจะสามารถกลับคืนเป็นปกติได้เองโดยไม่ต้องรักษา ทำให้คนรอบข้างจะ ไม่รู้สึกว่าเป็นปัญหา ถ้าไม่สังเกตอย่างใกล้ชิด เมื่อปกติแล้วเขาจะดำเนินชีวิตได้ปกติ พอถึงช่วงหนึ่ง จะรื่นเริงอีก หรืออาจจะสลับไปขั้วตรงข้าม เป็นแบบซึมเศร้า อาการก็จะเริ่มตั้งแต่ แยกตัว เบื่อหน่าย ไม่อยากทำอะไร กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เบื่อๆเข้าก็รู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ที่สำคัญที่สุดคือการฆ่าตัว ตาย   

        โรคนี้ช่วงซึมเศร้าจะเหมือนกับโรคซึมเศร้า อัตราการฆ่าตัวตายคือ 15-20% เพราะฉะนั้น หนึ่งในห้ามีโอกาสที่จะเกิดปัญหาเบื่อเศร้าและฆ่าตัวตาย ช่วงที่รื่นเริงมากๆ ก็จะมีประเด็นการฆ่าตัว ตายได้ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะแค่ตอนซึมเศร้า คนไข้ที่จะป่วยเป็นโรคนี้ จากการวิจัยพบว่า จะเริ่ม เกิดอาการของโรคนี้ในช่วงวัยรุ่น แต่อาการจะไม่ปรากฏชัด ซึ่งบางทีวัยรุ่นเป็นโรคนี้อยู่แต่ไม่ปรากฏ อาการที่รุนแรง คนรอบข้างจะไม่สามารถสังเกตได้ อาจเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง เช่น อาจจะ เที่ยวกลางคืน อยากไปเตร็ดเตร่ ไม่มีสมาธิในการเรียนทำให้ผลการเรียนตกลง อาจจะมีปัญหาเรื่อง ของพฤติกรรมที่สร้างปัญหา เช่น ทะเลาะกับเพื่อนฝูง ถ้าพ่อแม่ไม่ได้ใกล้ชิด เห็นแค่ปรับเปลี่ยนไป นิดหน่อย เหมือนกับไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย


แนวทางในการรักษาโรค 




          ในปัจจุบันเชื่อว่าโรคไบโพล่าร์เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสมองโดยมีสารสื่อนำประสาท ที่ไม่สมดุลย์คือมีสารซีโรโทนิน (serotonin) น้อยเกินไปและสารนอร์เอปิเนฟริน (epinephrine) มากเกินไปดังนั้นเราจึงสามารถรักษาโรคนี้ได้ด้วยยา ยาที่ใช้รักษาโรคไบโพล่าร์ได้แก่ยาในกลุ่มยา ควบคุมอารมณ์ (mood stabilizers), ยาแก้โรคจิต (antipsychotics), และยาแก้โรคซึมเศร้า (antidepressants)



          1. การรักษาในปัจจุบันนี้ ใช้ยาไปช่วยในการปรับสารสื่อนำประสาทตรงให้กลับมาทำงาน ได้อย่างปกติ เรียกชื่อกลุ่มยานี้ว่า กลุ่มปรับอารมณ์ให้คงที่ mood stabilizer ซึ่งจะมียาเฉพาะไม่กี่ตัว ที่จะใช้ในการรักษาที่จะช่วยอาการนี้ได้ ช่วงระยะการรักษา ช่วงแรกจะเป็นการคุมอาการให้กลับมา เป็นปกติที่สุดภายใน 1 สัปดาห์ก่อน หรืออย่างช้า 1 เดือน หลังจากนั้น จะเป็นการรักษาต่อเนื่องอาจ ต้องใช้ยาคุมอาการ ระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับอาการคนไข้เป็นสำคัญ ในคนไข้บางราย 1 ปี อาจ มาพบหมอแค่ 2-4 ครั้งเท่านั้น ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาลตลอด 



          2. ยาหลักที่นิยมใช้รักษาและได้ผลดี คือ lithium ควบคุมอาการ mania ได้ดีมาก แต่ผู้ ป่วยอาจต้องใช้ยาเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากโรคนี้อาจเป็นๆ หายๆ ได้ ตัวยายังสามารถป้องกัน ได้ทั้งอาการ mania และอาการซึมเศร้า ยาอื่นๆ ที่ได้ผลดี ได้แก่ valproate, carbamazepine, lamotrigine, gabapentin และ topiramate 

          3. สำหรับอาการซึมเศร้าตอบสนองดีต่อยา clozapine, olanzapine, risperidone, quetiapine และziprasidone 

          4. สิ่งสำคัญที่สุด คนรอบข้างต้องเข้าใจในผู้ป่วยที่เป็นภาวะเช่นนี้ด้วย ตัวผู้ป่วยเองก็ต้อง ดำเนินชีวิตในทางสายกลาง ควบคุมเวลานอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อยก็วันละ 6-8 ชั่วโมง พยายามหาวิธีแก้ปัญหาและลดความเครียด และอย่าใช้ยากระตุ้นหรือสารมึนเมา เช่น เหล้า หรือ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง 

          5. ถ้ามีผู้ป่วยในครอบครัว คนรอบตัวต้องเข้าใจและช่วยกันป้องกันผู้ป่วยในช่วงก่อน โรค กำเริบรุนแรงเพราะว่ามีโอกาส กลับไปเป็นซ้ำอีก ช่วงอายุที่มีโอกาสเป็นโรคอารมณ์แปรปรวน มาก ที่สุด คือ 15-25 ปี กลุ่มนี้จะเริ่มต้นด้วยอาการขยันผิดปกติ หรือที่เรียกว่า “ไฮเปอร์แอคทีฟ”ต่อมา บางช่วงของการเจ็บป่วยก็จะเปลี่ยนเป็นซึมเศร้า เป็นมากๆอาจถึงขั้นฆ่าตัวตาย 

          โรคนี้รักษาได้ ญาติควรนำผู้ป่วยส่งแพทย์โดยด่วน หากพบว่าอาการเริ่มเพิ่มชั้นความรุนแรง ปัจจุบัน มียาที่ใช้ปรับอารมณ์ให้คงที่ปกติ สามารถให้ผู้ป่วยดำเนินได้อย่างปกติเหมือนคนทั่วไป และลดซึ่ง ความสูญเสียทางด้านหน้าที่การงาน และเงินทอง เวลาผู้ป่วยมีอาการ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความรุนแรง เป็นปัญหาสังคมได้ 



ที่มา www.kapook.com


วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ศัพท์ที่พบบ่อยๆ ในหนัง AV


ภาพประกอยไม่เกี่ยวกับเนื้อหา


ศัพท์ที่พบบ่อยๆ ในหนัง AV
ki-moo-chi ? /คี-มู-จี๋ ?/ (เสียงสูงตรงจี๋) / ดีไหม-ชอบไหม
ki-moo-chi / คี-มู-จี๋ / อาาาา... ดีจังเลย ชอบบบบ
mot-to / โมะ-โตะ / เอาอีก เอาอีกๆ
i-tai-yo / อิ-ไต-โยะ / เจ็บอ่ะ...
kai-ka / ไก-ก๊ะ / เสียวมากเลยยยย
shi-go-ku / ชิ-โก-คุ / ทำเร็วๆ (ใช้ในท่า Girl on Top)
dai-te / ได-เตะ / กอดฉันหน่อยสิ่ ที่รัก...
i-ku / อิ-คุ / อ้า.. ใกล้แล้ว จะเสร็จแล้วววว
shi-te / shi-you / ชิเตะ / ชิยู / เธอ...สุดยอดดดมาก
su-ki / ซู-กิ / ชอบแบบนี้จังเลย
chin-bo / ชิน-โปะ / อวัยวะเพศชาย (จู๋)
dai-ski /ได-สะ-กิ / ฉับชอบ ... (ตอนอมให้ผู้ชาย)
ko-ko / โก๊ะ-โก๊ะ / เลียตรงนี้ให้หน่อย
o-ki / โก-ไค / ใหญ่จังเลย อุ้ย..เสียว
don-don / ดอน-ดอน / ซอยเร็วๆค่ะ เอาเร็วกว่านี้อีก
kan-ji-ru / ไค-จิ-รู / เสียวไปทั้งตัวเลย
ai-bu / อิ-บู / เล้าโลมก่อนมี sex
a-ma-a-am / อะ-มา-อะ-มา / รักจังเลยที่รัก
i-ran/อิ-ราน / สาวรักสนุก
ze-tsu-rin / เซท์-ซึ-ริน / อึดจังเลย
dai-su-ki / ได-ซู-กิ / รักมากนะ (ส่วนใหญ่พูดตอนจบ)

สีรถถูกโฉลกตามวันเกิด

คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยายขนาด

มิตรกับศัตรูตามวันเกิด

มิตรกับศัตรูตามวันเกิด

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

วันเกิดที่เป็นมิตรหรือถูกชะตากัน

อาทิตย์  เป็นมิตรกับ  พฤหัสบดี
จันทร์  เป็นมิตรกับ  พุธ (กลางวัน)
ศุกร์  เป็นมิตรกับ  อังคาร
พุธ (กลางคืน)  เป็นมิตรกับ  เสาร์


วันเกิดที่เป็นศัตรูหรือไม่ถูกชะตากัน


วันอาทิตย์  เป็นศัตรูกับ  วันอังคาร
วันพุธ (กลางวัน)  เป็นศัตรูกับ  วันพุธ (กลางคืน)
วันศุกร์  เป็นศัตรูกับ  วันเสาร์
วันจันทร์  เป็นศัตรูกับ  วันพฤหัสบดี

วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เมื่อปู่วัย 70 ได้สาวคราวหลานเป็นเมีย

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

เมื่อปู่วัย 70 ได้สาวคราวหลานเป็นเมีย

หลังจากเสร็จพิธีงานแต่ง เมื่อแขกเหรื่อกลับไปหมดแล้ว ยอดคุณปู่ก็อาบน้ำปะแป้ง ฉีดน้ำหอมไปทั่วตัว แล้วปู่ก็เข้ามาหาเจ้าสาวตัวน้อยคราวหลานในห้องนอน
เจ้าสาว “ ว่ายังงัยค่ะคุณปู่ ”

คุณปู่ไม่ตอบแต่ยิ้มด้วยความร่าเริง พลางชูมือ แบห้านิ้ว ให้เจ้าสาวดู

เจ้าสาว “อะไรกันค่ะปู่.... คืนแรกตั้ง 5 ครั้งเลยหรือค่ะปู่”

คุณปู่หัวเราะหึ หึ พลางบอกด้วยเสียงแหบๆว่า

“ ม่า ย ช่ า ย ม่ า ย ช่ า ย... ปู่ให้หนูเลือก...

ว่าหนูจะเอานิ้วไหน... ”

วันที่รู้ตัวว่าถูกข่มขืน!!!

วันที่รู้ตัวว่าถูกข่มขืน!!!

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

คดีข่มขืน...หลังจากอัยการถามผู้เสียหายจบแล้ว

ทนายจำเลยยืนขึ้นถาม ค้านผู้เสียหาย

ทนายจำเลย " จำเลยมัน ข่มขืนหนูกี่ครั้ง "

    ผู้เสียหาย " ห้าครั้ง "

ทนายจำเลย " ห้าครั้ง...คืนเดียว "

     ผู้เสียหาย " ค่ ะ "

ทนายจำเลย " จำเลยจ่ายค่า เสียหายให้ หนูเท่าไร "

     ผู้เสียหาย " ห้าพัน... "

ทนายจำเลย " ห้าพัน...ห้าครั้ง...ครั้งละพัน...จ่ายเงินสดหรือเช็ค ? "

     ผู้เสียหาย " เช็คค่ะ !"

ทนายจำเลย " จ่ายค่าเสียหาย เป็นเช็ค... "

   ทนายจำเลยเดินทอดน่อง ไปมา  แล้วว่าต่อ..

ทนายจำเลย " แล้วหนูมารู้ตัว ว่าถูกจำเลย ข่มขืนเอา เมื่อไร... "

     ผู้เสียหาย " เมื่อ..เช็คเด้งค่ะ!!!  "

เจอแล้วเครื่องมือแปลภาษาของ Google ที่หายไป

เจอแล้วเครื่องมือแปลภาษาของ Google ที่หายไป

1. คลิ๊กที่จุดสีี่เหลี่ยม 6 จุด


 2. คลิ๊กที่อื่นๆ

3. คลิ๊กที่แปลภาษา

ถ้าต้องการขยายขนาดภาพ คลิ๊กที่ภาพได้เลยครับ



ปีชง 2557 (ปีมะเมีย)

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

ปีชง 2557 (ปีมะเมีย)

ปีชงปีมะเมีย คนเกิดปีชวด ชง 100% 

คนที่เกิด ปีมะเมีย ปีเถาะ ปีระกา เป็นปีร่วมชง

ปีชง 2557 ปีชงปีมะเมีย นับตั้งแต่วันปีใหม่ของจีน หรือ วันตรุษจีน 2557 ที่จะเริ่มส่งผลกระทบต่อดวงปี 2557 ของคนที่มีปีเกิดตรงกับ ปีชง 2557 ได้แก่คนที่เกิดในปีชวด (ได้แก่คนที่เกิด พ.ศ. 2467, 2479, 2491, 2503, 2515, 2527, 2539, 2551) ส่วนคนที่เกิด ปีมะเมีย ปีเถาะ ปีระกา ซึ่งถือว่าเป็นปีร่วมชง (ได้แก่ คนที่เกิด พ.ศ. 2460, 2461, 2464, 2472, 2473, 2476, 2484, 2485, 2488, 2496, 2497, 2500, 2508, 2509, 2512, 2520, 2521, 2524, 2530, 2533, 2536, 2544, 2545, 2548)


 วิธีแก้ปีชง 2557 (ปีมะเมีย)

     ให้ท่านเดินทางไปยัง ศาลเจ้าพ่อเสือ หรือ วัดเล่งเน่ยยี่ เพื่อทำพิธีฝากดวง แก้ชง กับองค์ไท้ส่วยเอี๊ย เพราะคนจีนเชื่อว่าองค์ไท้ส่วยเอี๊ยเป็นผู้คุมชะตามนุษย์ทุกคน ดังนั้นการไปไหว้ฝากดวง รวมทั้งการไหว้พระ 9 วัด จะเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยเสริมดวงให้ดีขึ้นได้

วิธีการแก้ชง ไท้ส่วยเอี๊ย ทำได้ดังนี้

1. เขียนชื่อ-นามสกุล วัน เดือน ปีเกิดของคุณ
2. นำไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย หรือ เทพเจ้าแห่งดวงชะตา
3. จุดธุูป 3 ดอก ให้ช่วยคุ้มครองง
4. ถ้าเป็นของตัวเองให้นำกระดาษนั้นมาปัดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าจนสุดแขน จำนวน 12 ครั้ง
5. นำซองที่บรรจุดวงชะตานั้นฝากไว้ที่ศาลเจ้าเพื่อสวดมนต์ทำพิธีเสริมดวงชะตาของผู้ที่เกิดปีชง


วิธีการบูชา และ ของไหว้ องค์ไท้ส่วยเอี๊ย

 1. แจกันดอกไม้สด 1 คู่
 2. เทียนแดง  1 คู่
 3. ธูป 3 ดอก
 4. เทียงเถ่าจี้  1 คู่
 5. หงิงเตี๋ย  13 ชุด
 6. กิมหงี่งเต้า  1  คู่
 7. อาหารเจ (เห็ดหอม เห็ดหูหนู จำไฉ่ วุ้นเส้น ฟองเต้าหู้) 5 อย่าง
 8. ถั่วลิสง  25 เม็ด
 9. พุทราแดง (อั่งจ้อ)  25 เม็ด
10. ขนมโก๋  5 ชิ้น
11. น้ำชา  5  ถ้วย
12. ข้าวสวย  5  ถ้วย

วันอังคารที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การดูเลขทะเบียนรถ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
การดูเลขทะเบียนรถ


วิธีที่ 1 การดูหมายเลขทะเบียนรถ

1. แปลงค่าหมวดตัวอักษร 2 ตัวด้านหน้า แล้วนํามาบวกกับหมายเลข     4 ตัวหลัง

2. ได้ผลรวมแล้วดูความหมายตามหลักเลขศาสตร์ ให้ได้กลุ่ม                 หมายเลขที่ให้คุณ เช่น 14, 15, 19,24 และอื่น ๆ



3. ควรหลีกเลี่ยงหมวดตัวอักษรกาลกิณีและเลขกาลกิณี เช่น คนเกิด       วันอาทิตย์ไม่ควรมีเลข 6 และไม่ควรมีตัวอักษร ศ ษ ส ห ฬ ฮ

4. หากหลีกเลี่ยง หมวดตัวอักษรกาลกิณีและเลขกาลกิณีไม่ได้ ไม่         ควรให้เลขกาลกิณีเป็นเลขตัวสุดท้าย และให้ยึดหลักเลขศาสตร์ เป็นหลัก


ค่าตัวอักษรที่แปลงได้เป็นตัวเลข 

ก ด ถ ท ภ ฤ = 1
ข บ ป ง ช = 2
ต ฑ ฒ ฆ = 3
ค ธ ร ญ ษ = 4
ฉ ณ ฌ น ม ห ฮ ฎ ฬ = 5
จ ล ว อ = 6
ซ ศ ส = 7
ย ผ ฝ พ ฟ = 8
ฏ ฐ = 9

เลขและอักษรกาลกิณีที่ควรเลี่ยง
เกิดวันอาทิตย์ เลข 6 อักษร ( ศ ษ ส ห ฬ ฮ )
เกิดวันจันทร์ เลข 1 อักษร ( อ ) 
เกิดวันอังคาร เลข 2 อักษร ( ก ข ค ฆ ง ) 
เกิดวันพุธกลางวัน เลข 3 อักษร ( จ ฉ ช ซ ฌ ญ ) 
เกิดวัน พุธกลางคืน เลข 5 อักษร ( บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม ) 
เกิดวันพฤหัส เลข 7 อักษร ( ด ต ถ ท ธ น )
เกิดวันศุกร์ เลข 8 อักษร ( ย ร ล ว )
เกิดวันเสาร์ เลข 4 อักษร ( ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ )

หมายเหตุ : เกิดวันพุธกลางวัน ( เวลาเกิด 06.00 - 17.59 น. )
เกิดวันพุธกลางคืน ( เวลาเกิด18.00 - 05.59 น.)

ตัวอย่าง หมายเลขทะเบียน ศว 1212


แปลงค่าตัวอักษร ศ=7, ว=6 ได้ผลรวม หมวดตัวอักษร คือ 7 + 6 = 13


ผลรวมหมายเลข 4 ตัวหลัง คือ 1 + 2 + 1 + 2 = 6


นําผลที่ได้มาบวกกันได้ดังนี้ 13 + 6 = 19 

ให้ดูความหมายเลขศาสตร์ 19 ตัวอย่าง หมายเลข ทะเบียน ศศ 5959

แปลงค่าตัวอักษร ศ=7, ศ=7 ได้ผลรวม หมวดตัวอักษร คือ 7 + 7 = 14


ผลรวมหมายเลข 4 ตัวหลัง คือ 5 + 9 + 5 + 9 = 28


นําผลที่ได้มาบวกกัน ได้ดังนี้ 14 + 28 = 42 

ให้ดูความหมายเลขศาสตร์ 42


วิธีที่ 2 การนําเฉพาะตัวเลขที่อยู่หลังตัวอักษรทังหมดมารวมกัน

แล้วอ่านคำ เหลือเลขตัวเดียวแล้วอ่านคำทำนาย ทำนาย หรือทำให้


ตัวอย่าง กก 4562 เอา 4 + 5 + 6 + 2 รวมกันได้ 17 เอา 1 + 7 ได้ 8 คือ ดาวราหูหรือวันพุธ กลางคืน

ความหมายของดาว 8 ถ้าเป็นดาวคู่มิตรกับวันเกิดของท่านก็จะดี แต่ถ้ามีปัญหาก็จะเสียหาย


ความหมายของเลข 17 คุ้มโทษคุ้มภัยได้ มักจะมีสติปัญญาแตกฉาน เข้าใจอะไรได้ง่าย สามารถ
หยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างรวดเร็วแต่ชีวิตมักจะพบอุปสรรค และความยุ่งอยากอยู่บ่อยๆ มักจะถูกผู้ใหญ่กดและให้โทษ ทำให้ชีวิตขึ้นๆ ลงๆ ไม่แน่นอน 
บุคคลในเลข 17 นีจะมีตําแหน่งสูงแต่มักจะตกจากตําแหน่งได้ง่าย หรือไม่ก็มักจะถูกแย่งตําแหน่งหน้าที่การงานมักจะไม่ยั่งยืนถาวร 
เมื่อยามรุ่งโรจน์ต้องอย่าเหลิงเมื่อถึงคราวตกต่ำก็อย่าเสียใจจนเกินกว่าเหตุ ทำใจให้สงบถือว่าเป็นกฎแห่งกรรม 
เลข 17 มักจะผิดหวังชอกช้ำในเรื่องความรักเสมอ
เลข 17 รวมกันได้ 8 คือพระราหู มักจะเป็นคนหูเบาเชื่อคนง่าย 
ค่อนข้างดื้อรันเอาแต่ใจตัวเอง เวลาหลงอะไร ก็จะหลงแบบมากๆ
ลืมหูลืมตาไม่ขึ้น แถมยังขีน้อยใจอีกต่างหาก


กลอนดาวคู่มิตร 

"อาทิตย์ (๑) เป็นมิตรกับครู (๕) จันทร์ โฉมตรู (๒) คู่พุธ (๔) นงเยาว์ ศุกร์ (๖) ปากหวานอังคาร (๓) รับเอา ราหู (๘) กับเสาร์ (๗) เป็นมิตรแก่กัน"


กลอนข้างต้นแบ่งดาวคู่มิตร คือ เลข ๑ เป็นมิตรกับเลข ๕  

เลข ๒ เป็นมิตรกับเลข ๔, เลข ๓ เป็นมิตรกับเลข ๖ 
และเลข ๗ เป็นมิตรกับเลข ๘


กลอนดาวคู่ศัตรู 



 "อาทิตย์ (๑) ผดิกับอังคาร (๓) พุธ (๔) อันธพาลววิาทกับราหู
(๘) ศุกร์ (๖) กับเสาร์ (๗) เป็นเสี้ยนศัตรู จันทร์ (๒) กับครู (๕) เป็นอริต่อกัน" หมายถึงเลข ๑ เป็นศัตรูกับเลข ๓, เลข ๒ เป็นศัตรูกับเลข ๕, เลข ๔  เป็นศัตรูกับเลข ๘ และเลข ๖ เป็นศัตรูกับเลข ๗

หมายเลข 1 ดาวอาทิตย์
ธาตุไฟ เป็นดาวบาป ให้ผลในทางร้อนแรง เที่ยงตรง เร่งรีบ ไม่ยอมใคร อยู่ที่ไหนไม่นาน ตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใคร 
ได้แก่พวกมียศ มีตําแหน่ง พระราชา เชื้อพระวงศ์ รับราชการ 
ของท่านชาย ของมีแสงสว่างสดใส การสูบฉีดโลหติ ระบบเลือด

หมายเลข 2 ดาวจันทร์
ในร่างกาย ความดัน สายตา หัวใจ ไขสันหลัง
ธาตุดิน เป็นดาวศุภเคราะห์ ให้ผลในทางดี อ่อนหวานนุ่มนวล ความไม่แน่นอน เป็นไปอย่างช้าๆ ลึกลับ ยั่วยวน มารยา มืดมน เอาอกเอาใจ ได้แก่ ราชนี ท่านผู้หญิงยาบาล ท่าเรือ ท่าน้ำ การบริการ ระบบนํ้ำในร่างกาย ต่อม ไต ตับ ของที่เป็นคู่ ตา หู จมูก มือ เท้า แขน ขา อวัยวะเพศหญิง

หมายเลข 3 ดาวอังคาร
ธาตุลม เป็นดาวบาปเคราะห์ ให้ผลในเรื่องสงคราม การต่อสู้ ได้แก่บุคคลในเคร่ืองแบบ ผู้คอยรับคำสั่ง นักฆ่า ทหาร ตํารวจ หน่วยกู้ภัย มือสังหาร ช่าง หมอ พยาบาล อาวุธ เครื่องมือต่างๆ ยานพาหนะ อวัยวะเพศชาย เอ็น กล้ามเนื้อ จมูก ความกล้าหาญ ความขยัน ของสีชมพู

หมายเลข 4 ดาวพุธ
ธาตุน้ำ เป็นดาวศุภเคราะห์ ให้ผลในการค้าขาย การเจรจาติดต่อสื่อสาร ได้แก่ผู้สื่อข่าว นักพูด พิธีกร อาหารการกิน เสื้อ ผ้า ผัก ผลไม้ ระบบย่อยอาหาร ลําไส้ การวางแผน สัญญา โรงพิมพ์ ที่ทำการไปรษณีย์ ต้นไม้ ใบไม้ ดอกไม้ ของสีเขียว

หมายเลข 5 ดาวพฤหัสบดี
ธาตุดิน เป็นดาวศุภเคราะห์ ให้ผลในด้านการศึกษา ศาสนา ได้แก่ พระ ครู ผู้พิพากษา หมอ วัด โรงเรียน โรงพยาบาล ศาล สิ่งศักด์สิทธิ์ ตํารา วิชาการ เครื่องรางของคลัง วิญญาณ ประสาท สัมผัส หู ปัญญา ความคิด ศีลธรรม ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ แทนสีเหลืองเข้ม

หมายเลข 6 ดาวศุกร์
ธาตุน้ำเป็นดาวศุภเคราะห์ ให้ผลด้านการเงิน ความรัก ที่หลับที่นอน ความสนุกสนาน ความสมหวัง ความงาม ได้แก่คุณหญิงคุณนาย นักแสดง นักดนตรี นักรัก นักร้อง ช่างเสริมสวย ของ หอม ของสวยงาม เครื่องเพศหญิง มดลูก ต่อมอัณฑะ ช่องท้อง หน้าท้อง

หมายเลข 7 ดาวเสาร์

ธาตุไฟ เป็นดาวบาป ให้ผลด้านเกษตรกรรม กสิกรรม ความรกรุงรัง ของเหม็น สกปรก ไม่สะอาด ความเจ็บปวด ทุกข์ทรมาน ดํา มืด ต่ำพิการ ไม่สมประกอบ รองเท้า ผ้าเช็ดตัว ยางรถยนต์ กระดูก เสา หลัก ของหนักๆ ใหญ่ๆ ที่เปลี่ยว ที่ห่างไกล

หมายเลข 8 ดาวราหู
ธาตุลม เป็นดาวบาปเคราะห์ ประมุขของเหล่าพาล นักเลงทุกชนิด โมหจริต ความมัวเมา ความ เสเพล ดาวแห่งการเสี่ยงโชคและโชคลาภ โหราศาสตร์ มัวเมาอบายมุข ไม่เกรงกลัวใคร ไม่รู้จักอาย ไม่เกรงใจใคร มุทะลุ ลืมสติ เห็นผิดเป็นชอบ มีเล่ห์เหลี่ยม กล้าได้กล้าเสีย ชอบของมึนเมา

หมายเลข 9 ดาวพระเกตุ
ถือว่าเป็นธาตุลม ญาณ การหยั่งรู้ ต่างประเทศ มรดก โหราศาสตร์ นักบวช สถานที่ศักด์สิทธิ์ คนทรงเจ้า การมีอายุยืน





ตัวย่อ ธนาคาร ตามตลาดหลักทรัพย์

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

ตัวย่อ ธนาคาร ตามตลาดหลักทรัพย์

BBL = Bangkok Bank Public Company Limited (ธ กรุงเทพ)

BAY = Bank of Ayudthaya (ธ กรุงศรีฯ)


KTB = Krung Thai Bank ( ธ กรุงไทย)


SCB = Siam Commercial Bank (ธ ไทยพาณิชย์)


SCIB = Siam City Bank (ธ นครหลวงไทย)


KBANK = Kasikorn Bank (เดิม TFB = Thai Farmer Bank ตั้งแต่สมัยผู้ก่อตั้ง แต่ปัจจุบันยุค Re-Engineering จึงไม่อยากให้ฝรั่งเห็นคำว่า Farmer ... แถม 'ซินแส' ยังบอกว่า โลโก้ ต้องมีเส้นน้ำอยู่ใต้รวงข้าว และต้องมีวงแดงๆหนาๆรอบด้วย ... ส่วนสิงห์โตคำรามขนาดยักษ์หน้าแบงค์ใหญ่สองตัว ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นช้างเพื่อเสริมราศีไปแล้ว ... คงไม่ถือสาถ้าผู้ถือหุ้นจะแซวบ้างนะครับ)


TMB = Thai Military Bank (ธ ทหารไทย)
UOB = United Overseas Bank (ธ ยูโอบี)

TISCO = Thai Investment and Securities Public Co (ธ ทิสโก้)


ACL = Asia Credit Public Company Limited (ธ สินเอเซีย)


BTB = BankThai Bank (ไทยธนาคาร - ตลาดหลักทรัพย์ใช้ตัวย่อว่า BT)

Kiatnakin = Kiatnakin Bank (ธ เกียรตินาคิน - ตลาดหลักทรัพย์ใช้ตัวย่อว่า KK)


SCNB = Standard Chartered Nakornthon Bank (ธ สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ - ตลาดหลักทรัพย์ใช้ตัวย่อว่า SCBT = Standard Chartered Bank Thailand เพราะ ธ นครธน เจ๊งไปแล้ว)


TNC = Thanachart Bank (ธ ธนชาต - ตลาดหลักทรัพย์ใช้ตัวย่อว่า TBANK ... สะกดอักษรไทยว่า 'ชาต' เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ต้องการให้ชาวบ้านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นธนาคารอะไรที่เกี่ยวพันกับ 'ชาติ' หรือ รัฐ)


LHBANK = Land and House Bank (ธ แลนด์ แอนด์ เฮาส์ - ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์)


GSB = Government Savings Bank (ธ ออมสิน - ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์)


GHB = Government Housing Bank (ธ อาคารสงเคราะห์ - ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์)


BAC = Bank for Agriculture and Agricultural Cooperatives (ธกส หรือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร - ไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์   ชื่อย่ออย่างเป็นทางการคือ BAAC)


G, E, 3G, H, H+, R ต่างกันยังไง

G, E, 3G, H, H+, R ต่างกันยังไง
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา


ตัวอักษรต่างๆที่เราเห็นเวลาที่เราเชื่อต่อ Internet นั้นคือสัญลักษณ์ที่บอกถึงความเร็วการส่งผ่านข้อมูลครับอะเดี๋ยวเรามาดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง
2G (GSM) โหมดเต่าสุด
G (GPRS – General Packet Radio Service) ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดจะอยู่ที่ 48 Kbps
E (EDGE – Enhance Datarate for GSM Evolution)
ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดอยู่ที่ 236 Kbps

สำหรับบางรุ่นที่ไม่มีการแยกความเร็วในมันจะขึ้นว่า 2G
3G (WCDMA)
3G  หรือ EDGE+
 ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดอยู่ที่ 384 kbps
H (HSPA – High Speed Packet Access) 
 ความเร็วอินเตอร์เนตสูงสุด 7.2-14.2 Mbps
H+ (HSPA+ – High Speed packet access Plus)
 ความเร็วอินเตอร์เน็ตสูงสุด 21-42 Mbps
R – Roaming
ส่วนบางคนที่เห็นตัวอักษร R มันคือ Roaming หมายถึง ช่วงเวลาที่โทรศัพท์ของคุณใช้เครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของคุณไม่ได้เป็นเจ้าของในการส่งและรับข้อมูลส่วนใหญ่จะใช้กันเวลาที่เราเดินทางไปต่างประเทศ เช่น เราใช้เครือข่าย AIS อยู่และจะไปต่างประเทศซึ่งเราก็ต้องติดต่อขอ Roaming กับทาง AIS ก่อน เวลาที่เราไปต่างประเทศแล้วเราก็จะสามารถใช้มือถือได้เหมือนกับตอนที่อยู่ประเทศไทย เพียงแต่ใช้เสาสัญญาณของที่ต่างประเทศครับ ซึ่งการ Roaming แบบนี้จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างเยอะมาๆ ใครคิดจะใช้ควรศึกษาให้ดีๆเลยนะครับ พลาดทีโดนไปเป็นหมื่นเลยนา *0*
ส่วนถ้าเป็นในประเทศไทยเองมันจะเป็นการ Roaming เพื่อหาสัญญาณครับเช่น ถ้าคุณใช้ทรูเวลาที่มันหาสัญญาณของ TrueMove-H ไม่ได้มันก็จะค้นหาสัญญาณ True Move ให้แทนครับ (รู้สึกว่าจะมีค่ายเดียวนะที่เป็น)ซึ่งจะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมครับ แต่มันจะซดแบตนึดนึงเพราะต้องค้นหาสัญญาณอยู่เรื่อยๆ

ขนาดกระดาษตามมาตรฐาน

ขนาดกระดาษตามมาตรฐาน
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา


มาตรฐาน A
2A 1189 x 1682 มม 46.81 x 66.22 นิ้ว
A0 841 x 1189 มม 33.11 x 46.81 นิ้ว
A1 594 x 841 มม 23.39 x 33.11 นิ้ว
A2 420 x 594 มม 16.54 x 23.39 นิ้ว
A3 297 x 420 มม 11.69 x 16.54 นิ้ว
A4 210 x 297 มม 8.27 x 11.69 นิ้ว
A5 148 x 210 มม 5.83 x 8.27 นิ้ว
A6 105 x 148 มม 4.13 x 5.83 นิ้ว
A7 74 x 105 มม 2.91 x 4.13 นิ้ว
A8 52 x 74 มม 2.05 x 2.91 นิ้ว
A9 37 x 52 มม 1.46 x 2.05 นิ้ว
A10 26 x 37 มม 1.02 x 1.46 นิ้ว
มาตรฐาน B
B0 1000 x 1414 มม 39.37 x 55.67 นิ้ว
B1 707 x 1000 มม 27.83 x 39.37 นิ้ว
B2 500 x 707 มม 19.68 x 27.83 นิ้ว
B3 353 x 500 มม 13.90 x 19.68 นิ้ว
B4 250 x 353 มม 9.8 x 13.90 นิ้ว
B5 176 x 250 มม 6.93 x 9.84 นิ้ว
B6 125 x 176 มม 4.92 x 6.93 นิ้ว
B7 88 x 125 มม 3.46 x 4.92 นิ้ว
B8 62 x 88 มม 2.44 x 3.46 นิ้ว
B9 44 x 62 มม 1.73 x 2.44 นิ้ว
B10 31 x 44 มม 1.22 x 1.73 นิ้ว
มาตรฐาน C
C3 324 x 458 มม 12.76 x 18.03 นิ้ว
C4 229 x 324 มม 9.02 x 12.76 นิ้ว
C5 162 x 229 มม 6.38 x 9.02 นิ้ว
C6 114 x 162 มม 4.49 x 6.38 นิ้ว
C7 81 x 114 มม 3.19 x 4.49 นิ้ว

DL 110 x 220 มม 4.33 x 8.66 นิ้ว

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

การยื่นแบบภาษี ภ.ง.ด.

การยื่นแบบภาษี ภ.ง.ด
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา


"ภ.ง.ด. 90" คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้กรณีทั่วไป เช่นรายได้จากการมีทรัพย์สินให้เช่า การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ หรือมีกิจการเป็นของตัวเอง ต้องยื่นแบบฯในระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคมของทุกปี
"ภ.ง.ด. 91" คือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับผู้มีเงินได้จากการจ้างแรงงาน ต้องยื่นแบบฯในระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคมของทุกปี
"ภ.ง.ด. 93" สำหรับขอชำระภาษีล่วงหน้าก่อนถึงกำหนดเวลาการยื่นแบบตามปกติ
"ภ.ง.ด. 94" เป็นรูปแบบการยื่นแสดงภาษีแบบครึ่งปี สำหรับเงินได้ ที่เกิดขึ้นใน 6 เดือนแรก เพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับรายได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน รายได้จากค่าเช่า รายได้ค่านายหน้า รายได้ค่ารับเหมา รายได้จากการค้าขาย เป็นต้น และต้องยื่นแบบฯในระหว่างเดือน กรกฎาคม - 30 กันยายนของทุกปี

วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556

วิธีใช้ BBCode

วิธีใช้BBCode
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา


ถ้าจะทำตัวหนา ให้พิมพ์ข้อความแทรกลงในรหัส [b][/b] 


เช่น [b]นันทพัทธ์[/b] ผลที่ได้เป็น นันทพัทธ์

ถ้าจะขีดเส้นใต้ ก็ใช้ [u][/u]

เช่น [u]นันทพัทธ์[/u] ผลที่ได้เป็น นันทพัทธ์

ถ้าจะทำตัวเอียง ให้ใช้ [i][/i]

เช่น [i]นันทพัทธ์[/i] ผลที่ได้เป็น นันทพัทธ์

ถ้าจะเปลี่ยนสีตัวอักษร ให้ใช้คำสั่ง [color=][/color]

เช่น [color=red]นันทพัทธ์[/color] ผลที่ได้เป็น นันทพัทธ์

การเปลี่ยนขนาดตัวอักษรก็ทำได้โดยใช้คำสั่ง [size=][/size]

[quote="Mr. Blobby"]ข้อความอ้างอิงของ Mr. Blobby[/quote]


การเชื่อมโยงไปเว็บอื่นๆ

[url=http://www.phpbb.com/]คลิกที่ นี่ เพื่อไปที่ phpBB[/url]

[email]no.one@domain.adr[/email]

การแทรกรูปภาพลงในข้อความ [img][/img]

[url=http://www.phpbb.com/[img]http://www.phpbb.com/images/phplogo.gif[/img][/url]

วิธีการทำให้  You Tube  เล่นอัตโนมัติ

วิธีการทำให้  You Tube  เล่นอัตโนมัติ
ในหน้าโปรไฟล์หรือเว็บไซต์
ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

1. คัดลอกโค้ดวีดีโอจาก YouTube คลิ๊กเลือกแบ่งปัน คลิ๊กที่ "ฝังหรือ Embed" ตัวอย่าง <iframe width=560 height=315 src="http://www.youtube.com/embed/MqqQIWQEHuM" frameborder=0 allowfullscreen=""></iframe> 2. พิมพ์คำสั่ง ?&autoplay=1 ต่อท้าย url ของวีดีโอ ตัวอย่าง url คือ http://www.youtube.com/embed/MqqQIWQEHuM เพิ่มคำสั่ง ?&autoplay=1 จะได้ Code เป็นดังนี้ <iframe width=320 height=240 src="http://www.youtube.com/embed/MqqQIWQEHuM? &amp;autoplay=1" frameborder=0 allowfullscreen=""></iframe> *** สามารถเปลี่ยนแปลงขนาดของเฟรมได้ เช่น <iframe width=560 height=315></iframe> เปลี่ยนตัวเลขเป็น width=320 height=240

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

กินสับปะรดแล้วทำไมแสบลิ้น

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา

กินสับปะรดแล้วทำไมแสบลิ้น

ในสัปปะรดมีเอนไซม์ย่อยโปรตีนชื่อบรอมีลิน (Bromelin)
ช่วยย่อยโปรตีนไม่ให้ตกค้างในลำไส้ และ มีเกลือแร่ วิตามินซีจำนวนมาก
หลายคนจึงใช้ประโยชน์จากเอนไซม์ตัวนี้ในการหมักพวกเนื้อหมูเพื่อให้เกิดความนุ่ม
ซึ่งพอเราเอามากินเอนไซม์ตัวนี้ก็มารบกวนเนื้อเยื่อตรงลิ้นของเราเหมือนกันที่ทำกับเนื้อหมู จึงทำให้เกิดความระคายเคือง นั่นเอง

วิธีแก้ คือ ควรจะเอาลงไปแช่ในน้ำเกลืออ่อนประมาณ 2-3 นาทีก่อน



“ถ้ากินเป็นประจำก็จะช่วยป้องกันโรคไตอักเสบ ความดันโลหิตสูง 
หลอดลมอักเสบได้ และยังย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดี 
เสริมการดูดซึมอาหารดับร้อนแก้กระหายได้อีกด้วย ”

ร่างกายในช่วงเวลาต่างๆ

ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหา
ร่างกายในช่วงเวลาต่างๆ

เรารู้จักร่างกายของเราดีแค่ไหน รู้หรือไม่ว่าในช่วงเวลาต่างๆ นั้น มีความสัมพันธ์กับการทำงานของร่างกายในส่วนต่างๆ ลองมาทำความเข้าใจ แล้วคุณจะได้ไม่ใช้ชีวิตแบบทรมานร่างกายตนเอง

เวลา ๐๑.๐๐ น. ถึง ๐๓.๐๐ น. 
เป็นช่วงเวลาของตับ ควรนอนหลับพักผ่อน

ถ้าใครนอนหลับได้ดีเป็นประจำในช่วงนี้ ตับจะหลั่งสารเมลาโทนินเพื่อฆ่าเชื้อโรค 
ทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย นอกจากนี้ยังหลั่งสารเอนโดรฟินออกมาด้วย 
จึงไม่ควรกินอาหารในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้ตับทำงานหนักและเสื่อมเร็ว หน้าที่หลักของตับคือขจัดสารพิษในร่างกาย หน้าที่รองคือช่วยไตในการดูแลผม ขน เล็บ และช่วยกระเพาะย่อยอาหารถ้ากินบ่อยๆจะทำให้ตับทำงานหนัก
อาหารบำรุงตับ คืออาหารที่ช่วยล้างพิษ เช่นงา เม็ดบัว น้ำผลไม้ และน้ำสะอาด

เวลา ๐๓.๐๐ น. ถึง ๕.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของปอด

จึงควรตื่นนอนลุกขึ้นมาเพื่อสูดอากาศบิสุทธิ์ และรับแสงแดดยามเช้า ผู้ที่ตื่นนอนช่วงนี้เป็นประจำ ปอดจะดี ผิวดีขึ้น และจะเป็นคนมีอำนาจในตัว คนที่มีปัญหาเรื่องปอดจะไม่ค่อยตื่นเวลานี้
คนตื่นได้ตีสามถึงตีห้าแปลว่าปอดแข็งแรง อาหารบำรุงปอด คืออาหารจำพวกเบต้าแคโรทีน และวิตามินเอสูง เช่น ผักใบเขียว ส้ม น้ำผึ้ง หัวหอมใหญ่

เวลา ๐๕.๐๐ น. ถึง ๐๗.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้ใหญ่

ควรขับถ่ายอุจจาระ ทำให้เป็นนิสัยทุกเช้า แต่คนเรามักจะไม่ตื่นในช่วงเวลานี้
ซึ่งเป็นเวลาที่ลำไส้ต้องบีบอุจจาระลง
...ถ้าไม่ถ่ายให้ใช้วิธีกดจุดที่ตำแหน่งสองข้างของจมูก
...ถ้ายังไม่ถ่ายให้ดื่มน้ำอุ่น ๒ แก้ว
...ถ้ายังไม่ถ่ายอีก ให้ดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาวโดยใช้น้ำ ๑ แก้ว น้ำผึ้ง ๑ ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว ๔ ถึง ๕ ผล
ทำน้ำดื่มจนกว่าจะถ่าย หรือ บริหารโดยการยืนตรง หายใจเข้าแล้วก้มลงพร้อมทั้งหายใจออก เอามือท้าวเข่าแขม่วทอง จนเหมือนว่าหน้าท้องไปติดสันหลัง(คนที่ขับถ่ายยากต้องทานอาหารเช้า)
อาหารบำรุงลำไส้ใหญ่ คืออาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช

เวลา ๐๗.๐๐ น. ถึง ๐๙.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร

กระเพาะอาหารจะทำงาน ถ้านทานอาหารเช้าในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง ถ้าเราไม่ทานอาหารเช้า อุจจาระจะถูกดูดกลับมาที่กระเพาะอาหาร กลิ่นตัวจะเหม็น ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอจะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย
อาหารบำรุงกระเพาะอาหาร คืออาหารที่มีพลังงาน และสารอาหารอย่างน้อย ๑ ใน ๔ หรือร้อยละ ๒๕ ของปริมาณที่ควรได้รับตลอดทั้งวัน

เวลา ๐๙.๐๐ น. ถึง ๑๑.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของม้าม

ม้ามจะอยู่บริเวณชายโครงด้านซ้าย มีหน้าที่ควบคุมเมล็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศรีษะบ่อย มักมาจากความผิดปกติของม้าม อาการเจ็บชายโครงสาเหตุมาจากม้ามกับตับ
ม้ามโตม้ามจะไปเบียดปอดทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย ถ้าม้ามชื้น อาหารและน้ำที่ทานเข้าไป จะแปรสภาพเป็นไขมัน จึงทำให้อ้วนง่าย
ผู้ที่มักนอนหลับในช่วงเวลานี้ ม้ามจะอ่อนแอ นอกจากนี้ม้ามยัโยงถึงริมฝีปาก ผู้ทั้พูดบ่อยๆ หรือพูดเก่งๆ ม้ามจะชื้นจึงควรพูดน้อย กินน้อย้ามจึงแข็งแรง
อาหารบำรุงม้าม คือ มันเทศแดง หรือเหลือง อาหารที่ทำจากหัวบุก

เวลา ๑๑.๐๐ น. ถึง ๑๓.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของกล้ามเนื้อหัวใจ

หัวใจทำงานหนักในช่วงเวลานี้ ควรหลีกเลี่ยงความเครียด เหตุที่ทำให้ต้องใช้ความคิดหนัก และหาทางระงับอารมณ์ตื่นเต้นหรืออาการตกใจให้ได้ เป็นช่วงของระบบหัวใจ หมายถึงกล้ามเนื้อหัวใจ คนที่มีปัญหาเรื่องนี้ ดูที่อาการปวดไหล่ ไม่ได้แสดงอาการที่หน้าอกอย่างที่เข้าใจกัน
อาหารบำรุงกล้ามเนื้อหัวใจ คือ กล้วย ส้ม มะเขือ เตย รากบัว อาหารที่มีสีแดงตามธรรมชาติ เช่น ถั่วแดง และผลไม้สีแดง น้ำมันปลา วิตามินบีต่างๆ

เวลา ๑๓,๐๐ น. ถึง ๑๕.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก

ควรงดทานอาหารทุกประเภทเพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้ทำงาน ลำไส้เล็กมีห้าที่ดูดซึมสารอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น วิตามินซี โปรตีน เพื่อสร้างกรดอะมิโน สร้าเซลล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนน้อย ไข่จะมาไม่ครบทุกเดือน ผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย ๑๑ ฟุต เพื่อให้ดูดซึมได้นานกว่า เนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชาย เมื่อมีลำไส้ยาวกว่า จึงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชาย ๑ คู่
อาหารบำรุงลำไส้เล็ก คือ อาหารไขมันต่ำ น้ำสะอาด

เวลา ๑๕.๐๐ น. ถึง ๑๗.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ

กระเพาะปัสสาวะจะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์ และระบบเพศทั้งหมด ช่วงเวลานี้จึงควรำให้เหงื่อออก อาจจะออกกำลังกาย หรืออบตัว กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง
ข้อควรระวัง.....
...ถ้าเหงื่อมีโซเดียมปนออกมามาก ไตจะวาย
...ถ้ามีโปตัสเซียมปนออกมามาก หัวใจจะวาย แก้ไขเรื่องหัวใจวายด้วยการดื่มน้ำส้ม หรือน้ำมะนาวเพื่อเพิ่มโปตัสเซียม
การอั้นปัสสาวะบ่อยๆ ปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็นเหมือนปัสสาวะ
อาหารบำรุงกระเพาะปัสสาวะ คือ ผลไม้ เช่น บิลเบอร์รี่ และดื่มน้ำสะอาดมากๆ

เวลา ๑๗.๐๐ น. ถึง ๑๙.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของไต

ควรทำจิตใจให้สดชื่น ผู้ใดมีอาการ่วงนอนช่วงเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม ถ้านอนหลับแล้วเพ้อแสดงว่าอาการหนักมาก
...ไตซ้าย จะคุมสมองด้านขวา ซึ่งควบคุมด้านความคิดศร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม
...ไตขวา จะคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความจำ
ถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะอยู่มาก อาหารที่อยู่ในรูปของสารละลายจะซึมผ่านลำไส้เล็กไม่ได้ จึงตกเป็นภาระของไต เป็นผลทำให้ไตทำงานหนักจึงกลายเป็นโรคไต ผู้ที่เป็นโรคไตสมองจะเสื่อม ปวดหลัง เป็หวัดง่าย
มีเสลดในลำคอ อาหารบำรุงไต คือ อาหารที่มีเกลือต่ำ รวมถึงสมุนไพรจีน เช่น ถั่งเฉ้า เม็ดบัว

เวลา ๑๙.๐๐ น. ถึง ๒๑.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของเยื่อหุ้มหัวใจ

ช่วงเวลานี้ควรจะสวดมนต์ ทำสมาธิ ปัญหาเกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือทำให้หัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นโลหิตหัวใจตีบ ดังนั้นผู้ป่วยต้องระวังเรื่องตื่นเต้น ดีใจ การหัวเราะ กรณ๊เส้นเลือดขอด ต้องดูแลเส้นเลือดหัวใจให้แข็งแรง ควรใส่เสื้อผ้าชุดสีเข้ม (ดำ เทา) แช่เท้าในน้ำอุ่น อาหารบำรุงเยื่อหุ้มหัวใจ คือ อาหารจำพวกโปรตีนที่มีไขมันต่ำ รวมถึงวิตามินบีต่างๆ

เวลา ๒๑.๐๐ น. ถึง ๒๓.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาที่ต้องทำให้ร่างกายอบอุ่น

จึงห้ามอาบน้ำเย็นในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย อย่าไปตากลม เพราะเป็นช่วงที่ลมเป็นพิษ
อาหารบำรุงทำให้ร่างกายอบอุ่น คือ อาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น ขิง โสม

เวลา ๒๓.๐๐ น. ถึง ๐๑.๐๐ น. เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี

ถุงน้ำดีเป็นถุงสำรองเก็นน้ำย่อยที่ออกจากตับ อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำ จะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้นเป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือตอนเช้าจะจาม (ถุงน้ำดีจะโยงถึงปอด) จะปวดศรีษะข้างเดียว หรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ
...ทางแก้ คืออย่าใส่ชุดนอนที่มีผ้าใยสังเคราะห์ ไนล่อน ชุดนอนที่มำจากใยสังเคราะห์จะดูดน้ำในร่างกาย ควรสวมชุดผ้าฝ้ายดีที่สุด และควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน หรือก่อนเวลา ๒๓.๐๐ น.
อาหารบำรุงถุงน้ำดี คือ อาหารที่มีไขมันต่ำ และไม่ทานอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ
ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาวิจัยจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เช่น
จากการวิจัยของคณะผู้ศึกษาในทางโภชนาการและอาหารกลุ่มหนึ่งในสหรัฐอเมริกา โรงพยาบาล LOMALINDA รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยใช้ตัวอย่างหลายพันคน มีการเจาะกระเพาะ เจาะเลือด เพื่อนำไปเข้า
ห้องวิจัย ได้ค้นพบว่านาฬิกาทางชีวภาพของมนุษย์ ( Biological Clock ) จะเป็นดังนี้คือ

๑. ตั้งแต่ ๐๔.๐๐ น. ถึง ๑๒.๐๐ น. (เที่ยงวัน)
    เวลาของการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย
๒. ตั้งแต่ ๑๒.๐๐ น. (เที่ยงวัน) ถึง ๒๐.๐๐ น.
๓. ตั้งแต่ ๒๐.๐๐ น. ถึง ๐๔.๐๐ น.
    ช่วงเวลาของการซ่อมแซมสิ่งสึกหรอและการเสริมสร้างพลังของร่างกาย
    จะเป็นช่วงเวลาของการย่อยอาหารของร่างกาย

ผลจากการวิจัยดังกล่าวได้มีการสรุปข้อควรปฏิบัติในเรื่องการรับประทานอาหารโดยมีข้อเท็จจริง ดังต่อไปนี้
ก) คาร์โบโฮเดรต (แป้ง) และโปรตีน ใช้น้ำย่อยต่างชนิดกัน โดยน้ำย่อยของคาร์โบโฮเดรตจะเป็นด่าง น้ำย่อยของโปรตีนจะเป็นกรด ดังนั้นเมื่อรับประทานข้าวกับเนื้อสัตว์พร้อมกัน เช่นรับประทานข้าวหรือขนมปังคู่กับเนื้อไก่ หรือเนื้อวัว ร่างกายต้องใช้น้ำย่อยสองประเภท คือประเภทที่เป็นด่างสำหรับย่อยคาร์โบโฮเดรต และประเภทที่เป็นกรดสำหรับย่อยโปรตีน เมื่อน้ำย่อยออกมาพร้อมกันสองประเภทกรดก็จะบวกกับด่าง ซึ่งก็มีผลทำให้เป็นกลาง ผลที่ตามมาคือการย่อยอาหารไม่ละเอียด เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ซึ่งก็ย่อมไม่สามารถนำมาซ่อมแซมสิ่งสึกหรอหรือ เสริมพลังได้ การรับประทานคาร์โบโฮเดรตและโปรตีนพร้อมกันจึงผิดหลักโภชนาการเป็นอย่างยิ่ง
ข) ผลไม้จะมีกรดซึ่งสามารถจะย่อยตัวเองได้ง่าย แต่ขณะเดียวกันต้องระวังอย่ากินหลังอาหารทันที ต้องรออย่างน้อยหนึ่งชั่วโมง มิฉะนั้นจะไม่สามารถย่อยได้เพราะน้ำย่อยไปย่อยอาหารหลัก ยิ่งถ้าการย่อยอาหารหลักมีสภาพน้ำย่อยเป็นกลางเพราะกินทั้งแป้งและโปรตีน ก็ทำให้ผลไม้ไม่สามารถย่อยได้จะเกิดการบูดเสีย ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ ดังนั้นควรกินผลไม้ก่อนอาหารหนักเพราะย่อยง่ายกว่า
ค) การรับประทานอาหารโดยพิจารณาจากข้อมูลต่าง ๆ ที่กล่าวมาคือ ข้อ ก) และ ข) รวมตลอดทั้งนาฬิกาของชีวะภาพของร่างกายมนุษย์ จึงน่าจะเป็นดังต่อไปนี้คือ
๑) มื้อเช้าซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาของการขับถ่ายของเสีย ไม่ควรจะรับประทานเพราะไม่ใช่ช่วงระยะเวลาของการย่อย จึงควรจะรับประทานแต่ผลไม้เพราะย่อยง่าย หรืออาหารประเภทนมเปรี้ยว ถ้าจะให้ดีหลังตื่นนอนควรจะดื่มน้ำประมาณ ๔ แก้ว ยิ่งเป็นน้ำอุ่นก็จะดียิ่งขึ้นเพราะจะมีผลช่วยขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย
๒) มื้อกลางวันควรรับประทานคาร์โบโฮเดรต (แป้ง) และผัก ไม่ควรรับประทานโปรตีน ที่ต้องรับประทานคาร์โบโฮเดรต เพราะเป็นอาหารที่สร้างพลังให้ร่างกาย ผักนั้นมีวิตามินต่างๆ และมีผลช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น รวมทั้งมีแร่ธาตุ และสารอาหารที่ช่วยชะลอความชรา
๓) มื้อเย็นซึ่งควรรับประทานก่อนสองทุ่ม เพื่อจะให้อยู่ในช่วงระยะเวลาของการย่อยอาหาร ควรเป็นโปรตีนและผัก เพื่อจะนำไปสร้างส่วนสึกหรอของร่างกาย โปรตีนที่ดีที่สุดคือโปรตีนที่ย่อยง่ายเช่นปลา เป็นต้น เนื้อหมู และไก่ บริโภคแต่เพียงจำนวนจำกัด
ข้อสังเกตุ ผักรับประทานได้ทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น แต่ไม่มีแม้แต่มื้อเดียวที่รับประทานแป้งพร้อมกับโปรตีน
ข้อควรสังเกตุ คือ การรับประทานแป้งมากเกนไปจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น ส่วนการรับประทานโปรตีนมากเกินไปจะเหลือตกค้างในร่างกาย โดยเฉพาะกรดยูริคซึ่งจะทำให้เกิดโรคบางประเภทได้ จำนวนอาหารที่รับประทานให้อยู่ในปริมาณพอสมควร จะต้องมีการออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ โดย เฉพาะอย่างยิ่งการเดินเร็ว ๆ และสูดอากาศที่บริสุทธิ์ นอกเหนือจากข้างบนแล้ว การฝึกจิตให้มีความสงบ มีสมาธิ มองโลกในแง่ดี และมีวิธีคลายเครียดโดยใช้ปรัชญาทางศาสนา หรือโดยหลักการใดก็ตาม จะมีส่วนทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น และที่สำคัญ จะต้องพักผ่อนหลับนอนได้สนิทอย่างน้อย ๖ – ๗ ชั่วโมง
การเข้าใจนาฬิกาของชีวภาพ และเข้าใจระบบการทำงานของร่างกายในส่วนของการย่อยอาหาร จะเป็นคู่มือสำคัญ ของการบำรุงรักษาสุขภาพเพื่อจะทำให้ร่างกายแข็งแรง เอื้ออำนวยประโยชน์ในการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ต่อครอบครับ และต่อสังคม ต่อไป
หมายเหตุ : มื้อกลางวันและมื้อเย็นอาจจะสลับกันได้เป็นครั้งคราว โดยกลางวันกินผักและโปรตีน ส่วนมื้อเย็น กินแป้งและผัก และมื้อเย็นที่ดีที่สุดน่าจะเป็นข้าวต้มกับผักดอง หรือผักบุ้งไฟแดง คะน้าไฟแดง คะน้าน้ำมันหอย ถั่วงอกผัดโดยไม่มีโปรตีน
ผลจากการกินแป้งในมื้อเย็นยังมีผลทำให้มีการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และมีผลในการคลายความเครียด ทำให้หลับสนิทได้ดีขึ้น

ข้อสำคัญ โปรดจำไว้ว่าร่างกายต้องใช้ประมาณ ๗๐% ของพลังงานเพื่อการย่อยอาหาร ถ้ารับประทานอาหารให้พอเหมาะ น่าจะเป็นการดีที่สุด และไม่ควรรับประทานอาหารในช่วงเวลาที่ร่างกายขับถ่าย และซ่อมแซมสิ่งสึกหรอของร่างกาย กล่าวคือช่วงเวลาระหว่าง ๐๔.๐๐ – ๑๒.๐๐ น. ควรรับประทานเฉพาะผลไม้และหลังเวลา ๒๐.๐๐ น. ไปแล้วควรงดรับประทานอาหาร

นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้วิจัยและค้นคว้าร่างกายของมนุษย์เราว่า ทำอะไรบ้างในแต่ละชั่วโมง
๐๑.๐๐ น. คนส่วนใหญ่จะนอนหลับ ร่างกายจะมีความรู้สึกไวต่อความเจ็บปวดมาก
๐๒.๐๐ น. นอกจากตับแล้ว ส่วนต่างๆ ของร่างกายจะเคลื่อนไหวช้ามาก
๐๓.๐๐ น. ร่างกายทั้งหมดจะพักผ่อน กล้ามเนื้อจะผ่อนคลาย ความดันจะต่ำ ชีพจรจะเต้นช้า การหายใจก็จะช้า
๐๔.๐๐ น. สมองได้รับเลือดไปหล่อเลี้ยงน้อยมาก ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ตายไปในระยะเวลานี้
๐๕.๐๐ น. ไตจะไม่ทำหน้าที่กรอง เนื่องจากเราได้พักผ่อนมาระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น ในเวลาตื่นนอนอารมณ์จะรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ
๐๖.๐๐ น. ความดันเลือดจะสูงขึ้น หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น
๐๗.๐๐ น. ภูมิต้านทานโรคในช่วงนี้จะดีมาก เพราะร่างกายได้พักผ่อนมาแล้ว
๐๘.๐๐ น. ตับจะทำหน้าที่ขับพิษออกจากร่างกาย ในช่วงนี้ไม่ควรดื่มสุรา
๐๙.๐๐ น. จิตใจ อารมณ์ การทำงานจะดีมากในช่วงนี้
๑๐.๐๐ น. เป็นช่วงที่ร่างกายและสุขภาพจะดีมาก เหมาะที่จะทำงาน
๑๑.๐๐ น. เป็นช่วงที่ขยันขันแข็งในการทำงาน ร่างกายยังไม่อ่อนเพลีย
๑๒.๐๐ น. ช่วงตอนที่จะหยุดงาน ทางที่ดีที่สุดอย่าเพิ่งรับประทานอาหาร ควรจะรอช้ากว่าไปอีกสักหน่อย แล้วทานเอาช่วงเวลาประมาณ ๑๒.๓๐ หรือ ๑๓.๐๐ น. ก็จะดี
๑๓.๐๐ น. ตับจะพักผ่อน เนื่องจากเวลาการทำงานที่ดีได้ผ่านไปแล้ว ร่างกายในช่วงนี้จะเริ่มรู้สึกอ่อนเพลีย
๑๔.๐๐ น. เป็นช่วงระยะเวลาที่ร่างกายรู้สึกอืดอาด เชื่องช้าที่สุดในระยะหนึ่งของแต่ละวัน
๑๕.๐๐ น. ระบบต่างๆ ของร่างกายจะมีปฏิกิริยาที่ไวมาก สมรรถภาพของพละกำลังเริ่มฟื้นฟูขึ้น
๑๖.๐๐ น. ในกระแสเลือด จะมีน้ำตาลเพิ่มขึ้น แต่ก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว
๑๗.๐๐ น. สมรรถภาพในการทำงานจะเพิ่มขึ้น จะเห็นได้จากนักกีฬาที่ออกกำลังกาย จะมีเรี่ยวแรงเพิ่มมากขึ้น
๑๘.๐๐ น. ความรู้สึกต่ออาการเจ็บปวดจะลดน้อยลง ขอให้เพิ่มการออกกำลังกาย
๑๙.๐๐ น. ความดันของเลือดจะเพิ่มสูงขึ้น อารมณ์จะไม่ค่อยดีนัก มักจะเกิดงขึ้นได้ด้วยสาเหตุเล็กๆน้อยๆ
๒๐.๐๐ น. น้ำหนักตัวจะรู้สึกเพิ่มมากขึ้น สะท้อนออกถึงความผิดปกติอย่างรวดเร็ว
๒๑.๐๐ น. อารมณ์จะกลับเข้าสู่สภาพปกติ ความจำจะดีขึ้น สามารถคิดสิ่งต่างๆ ออกได้
๒๒.๐๐ น. ในกระแสโลหิต จะเต็มไปด้วยเม็ดเลือดขาว อุณหภูมิในร่างกายจะลดต่ำลง
๒๓.๐๐ น. ร่างกายตระเตรียมพักผ่อน เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ที่สึกหรอ
๒๔.๐๐ น. เข้าสู่ชั่วโมงแห่งการหลับไหล